ดอกมะลิ สัญลักษณ์ของวันแม่

                                                     

ดอกมะลิ สัญลักษณ์ของวันแม่

             
ดอกมะลิ เป็นไม้มงคลชนิดหนึ่ง มีความหมายว่า เป็นดอกไม้ที่ได้รับความปราถนาดี เป็นที่รักและคิดถึงของคนทั่วไป อีกทั้งยังเป็นสื่อแทนของความกตัญญูอีกด้วย ยิ่งใกล้ถึงวันแม่แบบนี้ ดอกมะลิ ก็จะกลายเป็นตัวแทนส่งมอบความรักจากลูกสู่แม่ ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมนำดอกมะลิ หรือพวงมาลัยที่ทำจากดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่ในวันนี้ ฉะนั้นแล้ว เราจึงควรจะมาเรียนรู้ความหมายและความสำคัญของดอกมะลิให้กันให้มากขึ้นดีกว่า ว่าดอกไม้ชนิดนี้มีความสำคัญอย่างไร และมีที่มาจากไหน

ดอกมะลิ ถือว่าเป็นไม้มงคลที่มีมาตั้งแต่โบราณ ว่ากันว่าดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ประจำองค์พระนารายณ์ นอกจากนั้นผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมนำเอาดอกมะลิมาใช้เป็นเครื่องสักการะบูชาพระ ด้วยกลิ่นหอมเย็นและสีขาวบริสุทธิ์ของดอกมะลิ เชื่อกันว่าบ้านใดที่ปลูกต้นมะลิเอาไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน จะช่วยเสริมให้คนในบ้านได้รับความปราถนาดี เป็นที่รัก และเป็นที่คิดถึงของคนทั่วไป อีกทั้งยังทำให้คนในบ้านมีจิตใจที่บริสุทธิ์ รู้จักกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า ดอกมะลิ นั้นเป็นดอกไม้ประจำวันแม่แห่งชาติด้วย

ในด้านคุณสมบัติของดอกมะลิที่เห็นเด่นชัดนั้น เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดียและแถบอาหรับ เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย ลำต้นเล็กกลม สูงประมาณ 2 เมตร มีผิวเปลือลำต้นเป็นสีขาวแตกสะเก็ดเล็กน้อย แตกกิ่งก้านสาขารอบต้น ส่วนกิ่งอ่อนๆ มีขนสั้น มีสีขาว ใบเดี่ยวออกตรงข้ามกันมีลักษณะเป็นรูปไข่ปลายแหลม ขอบใบเรียบเป็นมันออกสีเขียวเข้ม ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อตามซอกใบ ปลายกิ่งมีสีขาวสะอาด มีกลิ่นหอมเย็น แต่ละดอกมีกลีบเลี้ยงเป็นหลอด มีสีเขียวอมเหลืองอ่อนๆ ปลายแยกเป็น 8 - 10 เส้น กลีบดอกมีสีขาวประมาณ 6 - 10 กลีบเรียงเป็นวงกลม หรืออาจซ้อนกันเป็นชั้นแตกต่างกันตามสายพันธุ์ของมะลิที่มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน

การปลูกและวิธีการรักษาต้นมะลิ 

โดยปกติแล้วมะลิจะชอบดินร่วนซุย รับแสงแดดครึ่งวันถึงตลอดทั้งวัน ต้องการน้ำและความชุ่มชื้นปานกลาง ผู้ปลูกควรหมั่นพรวนดิน รดน้ำ และใส่ปุ๋ย แต่ต้องคอยระมัดระวังเพลี้ย ตลอดจนแมลงศัตรูพืชอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญที่สุดหากผู้ปลูกต้องการให้ดอกดก ควรรดต้นมะลิด้วยน้ำซาวขาวเป็นประจำทุกวัน รวมถึงจะต้องตัดใบออกบ้างและต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งอย่างสม่ำเสมอ มะลิจะออกดอกสวยตลอดทั้งปี แต่มักออกดกมากเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนถึงช่วงต้นฤดูฝน เพราะมะลิจะชอบอากาศร้อนชื้น สามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอน ปักชำ และแยกกอ

ประโยชน์จากมะลิ

  • ดอกสด นำมาแช่กับน้ำสำหรับกินบำรุงให้หัวใจชุ่มชื่น
  • ดอกแห้ง นำมาต้มน้ำ หรือชงกับน้ำร้อนเพื่อดื่มปรุงเป็นยาหอม โดยจัดอยู่ในเกสรทั้งห้า ใช้ถอนพิษ ดับพิษร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ บำรุงครรภ์ แก้บิด ปวดท้อง ผดผื่นคันตามผิวหนัง และแผลเรื้อรัง
  • ใบสด นำมาตำกับกากมะพร้าว หรือก้นกะลา ใช้สำหรับพอก หรือทาแผลพุพอง แก้พิษเรื้อรัง แก้พิษฝีดาษ
  • ยอดใบสด 3 ยอด นำมาตำแล้วพอกบริเวณรอยแผลเป็น จะช่วยทำให้แผลเป็นั้นจางลงได้
  • ราก นำมาตำให้ละเอียด ผสมไข่ไก่แดงต้มสุก นำไปอุดตามไรฟัน ช่วยแก้อาการเลือดออกตามไรฟัน หากนำรากสดๆ ผสมเหล้า ใช้สำหรับพอกขมับ ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ หากนำมาฝนต้นน้ำดื่ม จะช่วยแก้โรคปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เครียด หลอดลมอักเสบ แนะนำให้ใช้ในปริมาณที่น้อย เพราะหากรับประทานเข้าไปมากอาจทำให้สลบได้



ความคิดเห็น